Tuesday, November 8, 2016

หน้าหนาวแล้ว กินขิงแก้หนาวกัน ขิงที่มีรากงอกมีพิษจริงหรือ?


หน้าหนาวกินขิงกำลังดี ขิงที่มีรากงอกมีพิษจริงหรือ?

หน้าหนาวมาแล้ว อุณหภูมิก็รูดลงแบบสไสเดอร์กันเลย อากาศจะหนาวลงเรื่อยๆ เพื่อนๆหลายๆคนได้เตรียมขิงติดบ้านไว้แล้ว นึกอยากต้มมาดื่มให้คลายหนาวก็ทำได้ทันที แต่ว่า ขิงปกติจะก้อนใหญ่ ถ้ากินไม่ทันจะมีรากงอกออกมา ขิงแบบนี้ยังจะกินได้หรือไม่ ? จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดพิษหรือไม่ มาฟังผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการอธิบายดังนี้

ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติ แต่มีประโยชน์กับร่างกายหลักๆ 4 ข้อด้วยกัน

ขิง เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ส่วนของรากก็สามารถรับประทานได้ เพียงแต่จะมีความเผ็ดและรสชาติที่พิเศษกว่า ไม่เพียงแต่ใช้ในการทำของดอง เพิ่มรสชาติในอาหาร กำจัดกลิ่นคาวในอาหารทะเล หรือว่าจะนำมาทำเป็นอาหารหวานเช่น ลูกอมรสขิง ชาน้ำขิง ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบที่นิยมในอาหารฝั่งตะวันออก

นอกจากนั้น ขิงยังมีส่วนประกอบที่สำคัญต่อสุขภาพ ดังคำกล่าวจากศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณว่า "ขิงสดรักษาร้อยโรค" "เช้าดื่มน้ำขิงยังเหนือว่าดื่มน้ำโสม" นอกจากนั้นนักโภชนาการในสมัยนี้  อาจารย์เจียงเริ่นเฟิง จากโรงพยาบาลต้าเชียนจงเหอ หน่วยโภชนาการ ได้ให้ข้อมูลเกียวกับประโยชน์ของขิงดังนี้

1. ความเผ็ดของขิง สามารถเพิ่มความดันโลหิตให้สูงขึ้น ทำให้เลือดลมหมุนเวียน เพิ่มการขับเหงื่อ ดังนั้นในฤดูหนาวหรือระหว่างที่เป็นหวัด ดื่มน้ำขิงจะช่วยขับลมหนาว ลดเสมหะ ลดอาการไอ นอกนั้น ควาเผ็ดของขิงยังไปกระตุ้นการทำงานของช่องปากและเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้น้ำย่อยหลั่งออกมา เพิ่มรสชาติอาหาร

2. สารประกอบของขิง Ginger Ketone , Ginger Ketene เพิ่มความแข็งแรงของลำไส้ เพิ่มการบีบตัวของลำไส้ ลดอาการคลื่นไส้

3. น้ำมันจากขิง เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ลดการอุดตันเส้นเลือด

4. สารสีเหลืองในขิง เป็นสารต่อต้านอนุูมูลอิสระ สามารถป้องกันโรคหลอดเลือด ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง

กินขิงที่มีรากงอกมีพิษหรือไม่? ที่น่ากลัวคือขิงเน่า!

การกินขิงที่มีรากงอกมีพิษหรือไม่ ต้องกล่าวถึงพืชชนิดนี้ก่อนว่า โดยทั่วไปคนเรามักจะใช้ขิงในโอกาสต่างๆกัน การเก็บเกี่ยวก็แตกต่างกัน แบ่งขิงตามประเภทได้แก่ ขิงที่เพิ่งงอก ขิงอ่อน ขิงผง และขิงแก่
อาจารย์เจียงยังกล่าวว่า เนื่องจากขิงเติบโตในดิน หลังจากรากงอก รากจะค่อยๆโตเป็นขิงอ่อน ขิงอ่อนกินได้ แสดงว่ารากของขิงย่อมกินได้ เพียงแต่คุณค่าทางอาหารแตกต่างกัน คุณค่าทางโภชนาการน้อย

การกินรากขิงไม่เป็นพิษ แต่ว่าถ้ามีการเก็บรักษาไม่ถูกต้องทำให้ขิงเน่าเสีย ต้องห้ามกินเด็ดขาด ไม่ต้องเสียดาย ต้องทิ้งมันไปซะ เนื่องจากมันมีพิษแก่ร่างกาย ขิงที่เน่าเสียนั้นมีพิษที่ชื่อว่า Safrole (ซาฟรอล)  ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้เซลล์ตับผิดปกติ ก่อให้เกิดมะเร็งตับและมะเร็งหลอดอาหาร

ต้องระวังไว้ให้ดี สารซาฟรอลนี้คือ สารก่อมะเร็ง
ซาฟรอลเป็นสารที่ไม่มีสีหรือสีเหลืองอ่อนในรูปของเหลวน้ำมัน เป็นสารตระกูล Phenylpropene ปกติจะสกัดมาจากต้นซาฟรอลส่วนที่เป็นราก เปลือกไม้ ผล หรือแยกส่วนประกอบทางเคมีจากคาร์บอนไดออกไซด์

ในปี 1960 นักวิจัยได้พบว่าสารซาฟรอลเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็ง ทำให้เกิดการเสียหายทำลายตับอย่างถาวร ดังนั้น องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ได้ห้ามใช้ซาฟรอลและสารซาฟรอลในอาหาร สถาบันมะเร็งนานาชาติ (IARC) ได้จัดประเภทของสารซาฟรอลนี้อยู่ในกลุ่ม 2B แม้ว่ามีหลักฐานยืนยันเป็นสารก่อให้เกิดมะเร็งในสัตว์แต่หลักฐานเกี่ยวกับการก่อเกิดมะเร็งในมนุษย์ยังไม่เพียงพอ แต่ก็เป็นที่เข้าใจว่าสารนี้มีส่วนก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ จึงไม่แนะนำให้ใช้

การเลือกซื้อ และเก็บรักษา

เพียงแต่ต้องเก็บรักษาให้ดี อย่าให้ขิงเน่าเสีย ก็สามารถป้องกันสารพิษและความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ดังนั้น ควรเก็บรักษาขิงอย่างไร อาจารย์เจียงแนะนำ 2 หลักใหญ่ๆ "ฉลาดเลือก" และ "เก็บให้ถูกวิธี"

1. ฉลาดเลือก การเลือกขิงอ่อน ต้องเลือกรากที่สะอาดอวบขาว ปลายรากเป็นสีขมพูอ่อน หอมอ่อนๆ ไม่มีส่วนเน่าให้เห็น ผิวสว่างเรียบลื่น สะอาด ไม่มีส่วนแตกหัก ขิงแก่่ให้เลือกที่เหี่ยว ไม่มีส่วนเน่าเสีย แต่ละครั้งไม่ควรซื้อปริมาณมากเกินไป พยายามซื้อแล้วรับประทานให้หมดภายใน 2 อาทิตย์


2. เก็บให้ถูกวิธี ขิงแก่ไม่เหมาะกับการเก็บในตู้เย็น น้ำขิงมักจะไหลออกมา หากยังไม่ได้หั่น ให้วางไว้ในที่ที่ระบายลมได้ดี ขิงอ่อนและขิงผงควรจะใช้ฟิลม์ถนอมอาหารห่อไว้ เก็บไว้ในตู้เย็น ถ้าขิงมีการหั่นแล้ว แผลที่หั่นจะต้องห่อด้วยฟิลม์ถนอมอาหาร แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น


ที่มา ไลน์นิวส์

https://today.line.me/tw/article/2ae03e8f31ddb2b7af3c13d17f9b24c64a109be59fba7ca8a53c11781dbf446e

No comments:

Post a Comment