รถไฟฟ้าหรู เทสลา ระเบิดอีกแล้ว! แบตเตอรี่ระเบิดทำให้มีผุ้เสียชีวิต 2 คน
ข่าวจาก Tancent ประเทศจีนรายงานรถไฟฟ้าเทสลา Tesla Model S เกิดอุบัติเหตุชนต้นไม้ เป็นเหตุให้แบตเตอรี่ลิเทียมระเบิด ตัวรถทั้งคันถูกเผาไหม้กลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ ผู้โดยสาร 2 คนถึงแก่ความตาย พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่ารถดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วเกินกำหนดก่อนจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น บริษัทเทสลายืนยันว่าขณะที่เกิดอุบัติเหตุนั้นระบบขับขี่อัตโนมัติไม่ได้เปิดใช้งานอยู่
ตามที่มีกล้องบันทึกรายละเอียดในการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้พบว่า หลังจากแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในรถได้ชนเข้ากับต้นไม้แล้ว ก็เกิดเปลวไฟขึ้นอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ความจริงนั้นแบตเตอรี่ลิเทียมนี้มีคุณสมบัติในการเผาไหม้ได้นานกว่า 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ อุบัติเหตุครั้งนี้ยังได้คร่าชีวิตผู้ขับขี่ 1 รายและผู้ที่โดยสารมาด้วยอีก 1 ราย เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมาที่เมืองอินเดียน่าโพลิส มลรัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา
จากการแถลงข่าวหลังอุบัติเหตุครั้งนี้ นายเควิน หัวหน้านักดับเพลิงของเมืองอินเดียน่าโพลิสกล่าวว่า ถึงแม้ว่าเขาและทีมงานได้ทำงานเกี่ยวกับการจัดการดับเพลิงของรถพลังงานไฟฟ้าและรถพลังงานไฮบริดจ์มาโดยตลอด แต่การเผาไหม้ที่เกิดจากแบตเตอรี่ลิเทียมแรงดันสูง ต้องใช้น้ำปริมาณมหาศาลในการดับ นอกจากนั้นอุณหภูมิของเพลิงชนิดนี้จะสูงมาก
นายเควินยังได้อธิบายถึงเหตุการณ์ในที่เกิดขึ้นว่า พื้นที่มีแต่ความโกลาหล ชิ้นส่วนของก้อนแบตเตอรี่ชิ้นใหญ่กระเด็นออกไปประมาณ 100 ฟุต "นอกนั้นชิ้นส่วนแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ถูกระเบิดเป็นจุณก็กำลังเผาไหม้อยู่ข้างๆนักดับเพลิง เหมือนสะเก็ดระเบิดยังไงอย่างนั้น" เขากล่าว เขาไม่เคยเห็นไฟไหม้ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
นายเควินยังได้อธิบายถึงเหตุการณ์ในที่เกิดขึ้นว่า พื้นที่มีแต่ความโกลาหล ชิ้นส่วนของก้อนแบตเตอรี่ชิ้นใหญ่กระเด็นออกไปประมาณ 100 ฟุต "นอกนั้นชิ้นส่วนแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ถูกระเบิดเป็นจุณก็กำลังเผาไหม้อยู่ข้างๆนักดับเพลิง เหมือนสะเก็ดระเบิดยังไงอย่างนั้น" เขากล่าว เขาไม่เคยเห็นไฟไหม้ที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
พยานผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนนึง Al Finnell กล่าวว่า เขาเห็นรถ Model S คันนี้ชนต้นไม้ใหญ่แล้วกระเด็นไปอีกทาง ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น "ชิ้นส่วนของรถทั้งคันกระจายพุ่งขึ้นไปในอากาศ ฉันต้องรีบหาที่หลบจากตรงนั้น"
นายเควินยังกล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากผู้ขับขี่ใช้ความเร็วเกินกำหนดและไม่สามารถควบคุมรถได้ แต่ว่าการระเบิดของรถหลังจากการชนแล้วไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะรถที่ใช้แบตเตอรี่เท่านั้น ยังเกิดได้กับรถทั่วไปที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงและรถใช้พลังงานผสมไฮบริดจ์ ทั้งยังสามารถก่อให้เกิดการระเบิดที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ด้วย
โฆษกของบริษัทเทสลากล่าวว่า บริษัทเชื่อว่าระบบการทำงานไร้คนขับ Autopilot ของรถรุ่น Model S นี้ที่เกิดเหตุนั้นไม่ได้เปิดใช้งานขณะเกิดเหตุ ถ้าหากระบบไร้คนขับเปิดใช้งานอยู่ บนสภาพถนนแบบนั้นแล้วความเร็วรถจะถูกจำกัดไว้ที่ 35 ไมล์ต่อชั่วโมง ดังนั้นอาจจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังที่พยานได้เห็น และอาจจะไม่เกิดความเสียหายแบบนี้รวมถึงจะควบคุมรถไว้ได้ในที่สุด
ที่มา ไลน์นิวส์
No comments:
Post a Comment